มีโรคประจำตัว ออกกำลังกายแบบไหนดี

"การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ" ไม่ว่าใครก็อยากมีร่างกายแข็งแรงกันทั้งนั้น ซึ่งเป็นเรื่องยากเมื่ออายุมากขึ้น โรคนั้นโรคนี้ก็มาเยือนเราแบบไม่รู้ตัว แม้คนที่ดูแลตัวเองเป็นอย่างดีก็อาจหลีกเลี่ยงไม่พ้น ซึ่งการออกกำลังกายเป็นวิธีอย่างหนึ่งที่ช่วยให้คุณแข็งแรง แต่ถ้าคุณมีโรคประจำตัวอยู่ล่ะ ควรออกกำลังกายแบบไหนถึงเหมาะสม เพราะออกกำลังกายมากไปหรือผิดวิธี ก็อาจเพิ่มโรคให้กับคุณได้

-ถ้าคุณเป็นเบาหวานหรืออ้วนจนระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินพิกัด

ซึ่งถ้าไม่ลดน้ำหนักคุณหมอฟันธงว่ามีโอกาสเป็นเบาหวานชัวร์ 
 

การออกกำลังกายที่เหมาะสมคือ?

โรคเบาหวานชนิดดื้อต่ออินซูลิน หรือที่เรียกว่าเบาหวานชนิดที่ 2 เพิ่มจำนวนมากขึ้นในประเทศไทย เนื่องจากพฤติกรรมการกินการอยู่เปลี่ยนไป ทำให้คนไทยมีอัตราเสี่ยงกับการเป็นเบาหวานสูงขึ้น แต่ถ้าคุณต้องการลดน้ำหนัก โดยออกกำลังกายก็จะช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดของคุณกลับมาเป็นปกติได้

เริ่มสตาร์ทจากการอุ่นเครื่องด้วยวิธียืดกล้ามเนื้อประมาณ 10 นาที คุณอาจเดินช้าๆ หรือเดินแกว่งแขนก็ได้ จากนั้นคุณสามารถออกกำลังกายแบบแอโรบิกต่ออีกประมาณ 20 นาที เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายมีการเผาผลาญพลังงาน เช่น เต้นแอโรบิก เดินเร็ว ว่ายน้ำ โยคะ หรือ ไทชิ จากนั้นก็จะมีการเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และความยืดหยุ่นของร่างกายด้วยการยืดกล้ามเนื้ออีก 10-15 นาทีรวมแล้วระยะเวลาในการออกกำลังกาย ไม่ควรเกิน 1 ชั่วโมง เนื่องจากอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำจนเกินไป ซึ่งเป็นผลมาจากระดับอินซูลินในร่างกายที่ผิดปกติ ดังนั้นระยะเวลาจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคุณเป็นอย่างมาก


-ถ้าคุณเป็นความดันโลหิตสูง หรือคุณหมอวินิจฉัยว่าถ้าไม่ลดน้ำหนักจะทำให้เกิดโรคนี้ได้ 
 

การออกกำลังกายที่เหมาะสมคือ?

ความดันโลหิตสูง ควรออกกำลังกายเบาๆ
และควรดูที่ระดับของอัตราการเต้นของหัวใจเป็นหลักคือ ไม่เกิน 65%
*คำนวณโดยนำอายุของคุณมาลบกับ 220 จากนั้นนำผลลัพท์ที่ได้มาคำนวณหา 65% ได้ผลลัพท์เท่าไหร่ นั้นแหละค่ะคือ อัตราการเต้นของหัวใจในขณะออกกำลังกาย* หรือถ้าไม่สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ ก็ให้ใช้วิธีสังเกตขณะที่ออกกำลังกาย จังหวะในการเต้นของหัวใจเต้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ไม่มีอาการเหนื่อยหอบจนเกินไป เพราะถ้าออกกำลังกายหนักเกินไป อาจมีผลต่อหัวใจค่อนข้างมาก

วิธีออกกำลังกายที่ดีที่สุดของผู้ที่มีความดันโลหิตสูงคือ การเดิน เริ่มจากการเดินช้าๆ 10 นาที จากนั้นค่อยๆ เพิ่มความเร็วในการเดินเท่ากับที่ทำให้คุณหายใจเร็วขึ้น แต่ไม่ทำให้เหนื่อยจนเกินไป ใช้เวลาในการเดินประมาณ 30 นาที หลังจากครบ 30 นาทีแล้ว ไม่ควรหยุดทันที ควรเดินช้าๆ เพื่อเป็นการคล้ายกล้ามเนื้ออีก 10-15 นาที


-ถ้าคุณเป็นโรคที่เกี่ยวกับภูมิแพ้ หรือภูมิคุ้มกันเพี้ยน ได้แก่ โรคไทรอยด์ รูมาตอยด์ หรือ SLE แต่อยากออกกำลังให้ร่างกายแข็งแรง
 

การออกกำลังกายที่เหมาะสมคือ?

โดยปกติแล้วผู้ที่เป็นโรคเหล่านี้ เวลาออกกำลังกายจะรู้สึกเหนื่อยเร็ว เนื่องจากหัวใจจะเต้นเร็วมาก ดังนั้นคุณไม่ควรหักโหมออกกำลังกายหนักจนเกินไป วิธีออกกำลังกายที่เหมาะสมกับคุณคือ โยคะ ไทชิ เดิน หรือว่ายน้ำ ห้ามออกกำลังกายที่ต้องใช้การต่อสู้หรือแข่งขัน เช่น ตีเทนนิส ตีแบดฯ ชกมวย บาสเกตบอล ตีกอล์ฟ วิ่งแข่ง หรือถีบจักรยานแข่งขัน เนื่องจากทำให้ร่างกายอยู่ในภาวะเครียด ซึ่งยิ่งทำให้การหลั่งของฮอร์โมนผิดปกติมีผลเสียกับโรคมากยิ่งขึ้น

ที่มา  สลิมมิ่ง แม็กกาซีน