กลัวสมองเสื่อม ต้องขยันออกกำลังกาย

ออกกำลังกายใคร ๆ ก็รู้ว่าดี แต่ทำยาก ล่าสุด ใครไม่ชอบออกกำลังกายระวังสมองเสื่อม

สมองเสื่อมเป็นภัยร้ายแรงแบบไม่มีใครให้ความสนใจ สิ่งที่น่ากลัวคือโรคนี้มาแบบไม่เตือน มาแล้วเป็นทุกข์ทรมานต่อคนรอบข้าง อยู่ ๆ คุณอาจจำใครไม่ได้เลย แย่กว่านั้น บางคนทำธุรกิจมีเงินอยู่หลายแห่ง ลูกหลานอาจไม่รู้เลย ว่าพ่อแม่เก็บสมบัติไว้ที่ไหนบ้าง ระวังตนเองด้วยการออกกำลังกาย

    Dr.ยู มิน เกา นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแพทย์ Cheng Kung ในไต้หวัน ได้ตั้งสมมุติฐานว่าการที่เรามีอายุเพิ่มมากขึ้นและสมองเริ่มเสื่อมลงซึ่งมีผลต่อความจำและการเรียนรู้ของคน การที่เราออกกำลังกายจะช่วยชะลอความเสื่อมนี้ได้หรือไม่ แต่เขาก็ไม่ได้ทดลองกับคนหรอกนะ

ผลงานวิจัยในไต้หวันที่เพิ่งตีพิมพ์ ในวารสาร Journal of Applied Physiology กล่าวถึงผลการวิจัยเรื่องการออกกำลังกายช่วยให้เซลล์สมองเติบโต

การวิจัยครั้งนี้ทดลองกับหนูที่มียีนส์ใกล้เคียงกับมนุษย์โดยแบ่งหนูออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรก ให้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอทุกวันตลอด 5 สัปดาห์ โดยให้ออกกำลังกายแบบแอโรบิกที่เน้นการทำงานของปอดและหัวใจ ระบบไหลเวียนเลือด ไม่รู้ว่าให้วิ่งบนสายพานหรือเปล่า แต่ส่วนใหญ่หนูก็วิ่งแบบจักรที่เราเห็นกันชินตา เพียงตาหนูกลุ่มนี้ถูกสอนให้วิ่ง

หนูอีกกลุ่มไม่สอนให้ออกกำลังกาย ให้กินแล้วอยู่เฉย ๆ (ไม่รู้ว่าจะเหมือนพวกเราหลายคนหรือเปล่า กินเสร็จแล้วมาอยู่หน้าจอทีวี หรือไม่ก็เล่นเน็ต ไม่ชอบขยับกาย

แต่นักวิจัยก็ต้องการทราบผลมากกว่านั้นอีกว่า ถ้าอายุมากขึ้น เพิ่งออกกำลังกายจะเยียวยาสมองที่เริ่มเสื่อมได้หรือไม่ ด้วยการเอาหนูสูงอายุ ก็ไม่เชิง เอาหนูอายุ 8 เดือนเทียบเท่าก่อนวัยกลางคน กับหนูอายุ 12 เดือน เทียบคนอายุ 40-50 ปี(เพราะหนูอายุเฉลี่ยแค่ 24 เดือน) เปรียบเทียบว่าคนเราพอสุขภาพเริ่มแย่จึงหันมาออกกำลังกาย แน่นอนว่าสุขภาพดีขึ้น แต่ความจำ สมองที่เริ่มหลง ๆ ลืม ๆ จะดีขึ้นหรือไม่

ผลปรากฏว่า เซลล์สมองของหนูฟิตเนสมีการเติบโตขึ้น 2.5 เท่ามากกว่าพวกหนูที่นอนอยู่บนโซฟาดูทีวี (เปรียบเทียบแบบพฤติกรรมคน) และที่น่าสนใจมากกว่านั้นเซลล์ใหม่ที่เกิดขึ้นเติบโตและเชื่อมเป็นเครือข่ายเข้ากับเซลล์สมองเดิม

ผลสรุปการออกกำลังกายกับการเจริญเติบโตของเซลล์สมองสรุปได้ว่า หนูที่เริ่มออกกำลังกายตั้งแต่ยังไม่แก่ สมองจะไม่เสื่อมง่ายเท่ากับหนูที่ออกำลังกายเมื่อร่างกายแก่แล้ว

นักวิจัยจึงออกมาเตือนคนเราที่ไม่เคยออกกำลังกายเลยว่า จุดเปลี่ยนของชีวิตน่าจะอยู่ที่วัยกลางคน ถ้าคนเราไม่เปลี่ยนพฤติกรรมหันมาออกกำลังกายเลย

สมองในช่วงปลายของชีวิตก็อาจมีปัญหา การทำให้ร่างกายได้มีการออกเหงื่อ ได้ขยับมากกว่าชีวิตประจำวันจะดีกว่ามาเริ่มต้นเมื่อตอนวัยปลาย เพราะจะไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร
 

สำหรับคนที่ยังอายุน้อยแล้วคิดว่ารอถึงวัยกลางคนเสียก่อนค่อยหันมาดูแลตัวเอง ก็อย่านอนใจ เริ่มได้ทันที ไม่ต้องตั้งท่า ไม่ต้องรอเพื่อน เริ่มได้ด้วยตัวเอง เดินเร็ว กายบริหาร ทำให้ต่อเนื่อง ผลที่ได้ หุ่นดี ไม่อ้วน ส่วนสมองไม่เสื่อมอาจยังไม่กลัว แต่ก็ป้องกันได้