ในสังคมจริง การที่เราจะพูดคุยกับใคร หรือนำเสนอข้อมูลข่าวสารใด หรือหากจะแสดงความคิดเห็นต่อสาธารณชน เราทุกคนต่างต้องรับผิดชอบต่อทุกคำพูด ทุกการแสดงออกของเรา ดังนั้นมารยาททางสังคมและความเคารพเกรงใจกันในสังคมจึงมีอยู่สูง
เพราะเห็นหน้าค่าตากันอยู่ รู้ว่าใครเป็นใคร พลังทางสังคมเช่นนี้เองที่ช่วยควบคุมกำกับให้คนเรา มีความสำรวจระวังในการใช้คำพูด และแสดงออกอย่างเหมาะสม เพราะเกรงกลัวต่อบทลงโทษทางสังคม ทั้งในแง่การลงโทษ
ทางกฎหมายและการยอมรับของสังคม แต่ในสังคมไซเบอร์ ที่ไม่จำเป็นแสดงสถานะที่แท้จริงของตน บางครั้งมีการใช้ภาษาที่หยาบคายโดยไม่ต้องกลัวจะถูกชกหน้า มีการกล่าวหากันโดยไม่ต้องกลัวถูกฟ้องหมิ่นประมาท และมีเรื่องอื่นๆอีกมากมายที่คนเราไม่กล้าทำในสังคมจริง เมื่อคนเราเสพคุ้นสิ่งเหล่านี้จนเป็นนิสัยในที่สุดก็จะรู้สึกว่า ความก้าวร้าวรุนแรง หรือเรื่องที่ผิดเพี้ยนทั้งหลายนั้นเป็นเรื่องธรรมดา สิ่งเหล่านี้ล้วนบ่งบอกว่า คุณภาพใจของคนเราได้ตกต่ำ
ลงไปอย่างไม่รู้ตัวและแน่นอนว่า ในสังคมไซเบอร์ที่เชื่อมโยงผู้คนจำนวนมหาศาลไว้ด้วยกันนี้ กระแสใจของคนย่อมส่งผลกระทบซึ่งกันและกันและกระทบถึงเยาวชนอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เยาวชนของเราจะเป็นเช่นไร เมื่อได้ซึมซับความก้าวร้าว อคติ กิเลสต่างๆในโลกที่เขาก็สามารถเข้าไปได้โดยไม่มีใครรู้เช่นกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น